รุ่งหรือร่วง !? วิเคราะห์ ทีมชาติอังกฤษ กับการลุ้นแชมป์ยูโร2024

ทีมชาติอังกฤษ

หลังจาก ฟิล โฟเดน ระเบิดฟอร์มยิงแฮตทริก ให้ต้นสังกัด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถล่ม อัสตัน วิลล่า ในศึกพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 31 เมื่อคืนกลางสัปดาห์ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้มองข้ามช็อตไปถึง ทีมชาติอังกฤษ ในศึกฟุตบอล ยูโร2024 กลางปีนี้ ว่าพอคาดเดาและมีความหวังสดใสมากน้อยแค่ไหน ที่ทัพสิงโตคำราม จะโชว์ฟอร์มและมีลุ้นเข้าไปถึงรอบลึก ๆ หรือมองไปถึงแชมป์ยูโร2024 ไปเลย ได้หรือไม่

ทีมชาติอังกฤษ ดีพอ ? คว้าแชมป์ยูโร2024

เพราะนับตั้งแต่ แกเร็ธ เซาธ์เกต เข้ามาคุมทีมชาติอังกฤษ เขาได้พาทีมชาติสู้ศึกใหญ่ ๆ ภายใต้ผลงานที่ยอดเยี่ยม ทั้งพาทีมชาติอังกฤษ เข้ารอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก2018 และพาเข้าชิงยูโร 2020 ก่อนแพ้จุดโทษอิตาลี อย่างสนุกและน่าประทับใจ
สำหรับคนไทย แฟนบอลส่วนใหญ่ผูกพันกับทีมฟุตบอลอังกฤษมานาน เพราะได้รับชมการถ่ายถอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกทุกฤดูกาล ทำให้ก็คอยติดตามข่าวสารและลุ้นฟอร์มของอังกฤษเหมือนเป็นทีมโปรดในดวงใจไปด้วย
อย่างไรก็ดี อังกฤษ เคยถูกมองว่า เป็นหมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อม อีกทีมเช่นกัน หมายความว่า คือ ชาติที่รวมดารานักเตะซุปเปอร์สตาร์เอาไว้ในทุก ๆ ยุค ตัวดีขนาดนี้ แต่พอลงเตะจริง ฟอร์มกลับตาลปัตรคนละเรื่องแบบหน้ามือเป็นหลังมือ

ตั้งแต่อังกฤษในยุคที่บอกกันว่า เป็นยุคทอง ในยุคที่มีนักเตะชั้นนำระดับท็อปของวงการ เอ่ยชื่อมา คือ ระดับโลกทั้งนั้น เช่น
– เดวิด เบ็คแฮม กัปตันทีมชาติทีมีความเป็นผู้นำ พึ่งพาได้เสมอ
– เวย์น รูนีย์ ที่ขณะนั้น เป็นดาวรุ่ง และสื่อจับตามองมาก
– แฟรงค์ แลมพาร์ด จอมทัพ ตำนานของเชลซี
– สตีเว่น เจอร์ราร์ด หัวใจสำคัญและผู้นำทัพ The Kop ลิเวอร์พูล
– ไมเคิลโอเว่น เบบี้โกล ที่ติดทีมชาติศูนย์หน้าไปลุยทุกทัวร์นาเมนต์
– พอล สโคลส์ กลางรุก กับลูกเก่ง ซัดเต็มข้อจากแถวสอง แห่งถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด
– ริโอ เฟอร์ดินาน ประการหลังตัวกลางที่เคยดีที่สุดและค่าตัวแพงสุดในเกาะอังกฤษ
– จอห์น เทอร์รี่ เซ็นเตอร์ตัวเหนียว จอมตะโกนสั่งการอีกคน
– แอชลี่ย์ โคล ฟูลแบ็ค ตัวพริ้ว เชิงเทคนิค ที่อังกฤษจะขาดเสียมิได้ในยุคนั้น

โดยรายชื่อนักเตะทีมสิงโตคำราม ที่ว่ากันว่า เป็นยุคทอง ที่กล่าวมานี้ แค่ดูชื่อชั้น ใคร ๆ ก็มองว่า ผลงานต้องกวาดแชมป์รายการใหญ่ได้แน่นอน แต่ในความเป็นจริง อังกฤษชุดนี้ ภายใต้การคุมทีมของ สเวน โกรัน อีริคสัน ในขณะนั้น กลับไม่เคยคว้าแชมป์ หรือแม้แต่โชว์ผลงานที่น่าประทับใจได้เลย
ด้วยสาเหตุหลัก ๆ ที่ถูกร่ำลือกันว่า นักเตะอังกฤษในยุคดังกล่าวนั้น จริง ๆ แล้วไม่ได้สามัคคี มุ่งมั่นหรือร่วมแรงร่วมใจกันจริง ๆ เพราะมีการแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า เพราะสังเกตว่า ตัวติดทีมชาติมักจะมาจาก Big 4 ในสมัยก่อน คือ แมนฯ ยูไนเต็ด , ลิเวอร์พูล , อาร์เซน่อล , เชลซี ทำให้อีโก้ ภายในทีมค่อนข้างรุนแรงและอึดอัด แม้แต่ สเวน โกรัน อีริคสัน ก็ปวดหัว ยากที่จะคุมนักเตะชุดนี้อยู่
กลับมาปัจจุบัน สำหรับความหวังที่มองเห็น ยังมีอนาคตที่สดใส เพราะมีนักเตะเลือดใหม่ วัยรุ่นเมืองผู้ดีที่วันนี้แต่ละคนฝีเท้าฉกาจ โชว์ฟอร์มดีกับต้นสังกัดได้อย่างยอดเยี่ยม และมีประสบการณ์มาแล้วไม่น้อย ซึ่งดูแล้วไม่ขี้เหร่หรือไม่เป็นรอง อังกฤษยุคทองเลย
– แฮร์รี่ เคน
– ฟิว โฟเดน
– จู๊ด เบลลิ่งแฮม
– บูกาโย ซากา
– ดีแคลน ไรซ์
– โอลลี่ วัตกิ้นส์
– อิวาน โทนีย์
– เจมส์ แมดดิสัน
– โคล พาลเมอร์
– จาร์ร็อด โบเวน
– แอนโทนี กอร์ดอน
– เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
– จอห์น สโตนส์
– ไคล์ วอล์คเกอร์

นี่แค่บางส่วนของ นิวเจน เลือดสิงโตคำรามยุคปัจจุบัน ที่แต่ละคนอยู่ในช่วงพีคสุด ๆ เชื่อว่า ใครที่ติดตามรับชมพรีเมียร์ลีก รายชื่อเหล่านี้ฟอร์มเทพจริง ๆ กับต้นสังกัด ซึ่งไม่แตกต่างกับ อังกฤษยุคทองในอดีตหรือ 10 ปีที่แล้ว
แต่สิ่งที่แตกต่างคือ ดู ๆ แล้ว นักเตะอังกฤษชุดปัจจุบัน ดูมีความมุ่งมั่นจริง ๆ อย่างแรงกล้า ดูไร้อีโก้ ไม่ถือว่าตัวเองมาจากทีมใหญ่ ซึ่งในแคมป์ฝึกซ้อม มักไม่ค่อยมีข่าวฉาว เมื่อเทียบกับอังกฤษในยุค สเวน โกรัน อีริคสัน ซึ่งก็น่าจะเป็นเพราะ สิงโตร่างทองนี้ คุมทัพโดย แกเร็ธ เซาธ์เกต เลือดผู้ดีเหมือนกัน จึงดูมีภาษีและบารมี ที่สามารถเอานักเตะชุดนี้ได้อยู่หมัด

สรุป : จึงอาจจะฝันกลางวันหรือคาดเดาไปก่อนได้ว่า ทีมชาติอังกฤษ ชุดนี้ น่าจะทรงดีทั้งในสนามและนอกสนาม ด้วยพลังหนุ่มและความมุ่งมั่น สามัคคีกันจริง ๆ หากคงรักษามาตรฐานเหล่านี้เอาไว้ ก็ไม่แน่ว่า ยูโร2024 กลางปีนี้ สิงโตอาจจะได้คำรามก้องทั้งโลกซะที !