ดาเนียล เลวี (Daniel Levy) นักธุรกิจชาวอังกฤษที่ปัจจุบันเป็นประธานสโมสรและเจ้าของทีมท็อตแนมฮอต สเปอร์ (Tottenham Hotspur) เผยกับสื่อว่า ตนเองยอมรับว่า กำลังหารือร่วมกับบอร์ดผู้บริหาร เกี่ยวกับการบริหารการเงินและการลงทุนของสโมสร หลังจากที่ผ่านมาตัวเลขขาดทุนไปกว่า 86.8 ล้านปอนด์
Telegraph Sport สื่ออังกฤษรายงานว่า ดาเนียล เลวี กำลังมีความเคลื่อนไหวในการหารือภายในการบอร์ดผู้บริหาร หลังพบปัญหาในเรื่องการบริหารการเงินและการลงทุนของไก่เดือยทอง ทีมชั้นนำในพรีเมียร์ลีก ที่ปัจจุบันรั้งอันดับที่ 5 และกำลังทำอันดับเพื่อคว้าตั๋วไปเตะฟุตบอลถ้วยยุโรปให้ได้ในฤดูกาลหน้า โดยหลังจากที่บริหารทีมที่ผ่านมา สรุปตัวเลขขาดทุนไปกว่า 86.8 ล้านปอนด์
ประธาน สเปอร์ เร่งหารือ หลังทีมขาดทุนยับ
โดยประเด็นที่ ดาเนียล เลวี กำลังตัดสินใจทำหลังจบการแข่งขันพรีเมียร์ฯ ในฤดูกาลนี้ โดยสื่ออังกฤษ เปิดเผยประเด็นต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้
• ดาเนียล เลวี กำลังหารือกับนักลงทุนในอนาคตในการประมูลหรือระดมทุนจากนักธุรกิจต่าง ๆ ที่สนใจเพื่อถือหุ้นเพิ่มทุนให้กับศักยภาพให้กับสโมสรในระยะยาว
• ขณะนี้ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวมถึงต้นทุนทีมชุดใหญ่ของทีม มีรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น 21 เปอร์เซ็นต์เป็น 487.9 ล้านปอนด์ ทำให้สโมสรต้องแบกภาระ โดยมีตัวเลขขาดทุน 86.8 ล้านปอนด์ ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจาก “การลงทุนพัฒนาทีมและค่าเหนื่อยของผู้เล่นในทีม”
• ทีม ปัจจุบันมีหนี้สิน นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 677.4 ล้านปอนด์ ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินที่กู้ยืมมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ หรือจำนวน 851.2 ล้านปอนด์ เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ โดยมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ 2.79 เปอร์เซ็นต์
ดาเนียล เลวี ยังเปิดเผยด้วยว่า “เราคาดว่า จะสามารถหารายรับเข้ามาได้ หากเปิดโอกาสและสรรหานายทุนที่มีศักยภาพเข้ามาแก้ปัญหาในเรื่องที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้
นอกจากนี้ เราวางแผนที่จะพัฒนาทีมให้ยิ่งใหญ่และยั่งยืนกว่านี้ โดยเป้าหมายสำคัญคือ การได้ไปเตะถ้วยยุโรปในทุก ๆ ปีซึ่งหมายถึงเราจะได้รับเม็ดเงินสปอนเซอร์ ค่าถ่ายทอดสด การขายตั๋วให้กับแฟนบอล และรายรับอื่น ๆ ที่จะเข้ามามากขึ้น ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะส่งผลให้ สเปอร์ ก้าวไปสู่บิ๊กทีมที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต”