ฟุตบอลโลก 2030 จะลงเอยด้วย 6 ประเทศร่วมจัดการแข่งขันโดย 3 นัดแรกจะเตะกันที่ อุรุกวัย, อาร์เจนติน่า และ ปารากวัย ก่อนย้ายมาเล่นใน โมร็อกโก, สเปน และ โปรตุเกส ตลอดทัวร์นาเมนต์ที่เหลือ
ข้อเสนอของการจัดแข่งใน 6 ประเทศมาจากการพูดคุยแบบลับๆระหว่างสมาพันธ์ฟุตบอลของ 3 ทวีป ที่บรรลุข้อตกลงกันแล้วก่อนเสนอให้กับ ฟีฟ่า
เชื่อกันว่า ฟีฟ่า เองก็สนับสนุนไอเดียดังกล่าวแต่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากการประชุมในปีหน้า
ชาติจากอเมริกาใต้ขอยื่นเป็นเจ้าภาพร่วมเพื่อฉลองการครบรอบ 100 ปีของฟุตบอลโลกหนแรก และ ฟีฟ่า ยอมให้ อุรุกวัย, อาร์เจนติน่า และ ปารากวัย จัดการแข่ง 3 นัดแรกของทัวร์นาเมนต์นั้นก็ด้วยเหตุผลนั้น
ทั้ง 6 ชาติจะได้ตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ และจะเป็นฟุตบอลโลกหนแรกที่มีการจัดแข่งขันข้ามทวีป
อุรุกวัย จัดฟุตบอลโลกหนแรกในปี 1930 และคว้าแชมป์ได้โดย อาร์เจนติน่า เป็นรองแชมป์ในครั้งนั้น ส่วนสำนักงานของสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ (CONMEBOL) ตั้งอยู่ใน ปารากวัย
แล้วพอเสร็จสิ้นการแข่งขัน 3 เกมแรกของฟุตบอลโลก 2030 นั้น อุรุกวัย, อาร์เจนติน่า และ ปารากวัย รวมถึงคู่แข่งของพวกเขาจะเดินทางมาแข่งใน โมร็อกโก, สเปน และ โปรตุเกส ต่อจนจบทัวร์นาเมนต์
ส่วนพิธีเปิดการแข่งขันของฟุตบอลโลกจะจัดขึ้นที่ โมร็อกโก, โปรตุเกส และ สเปน
ฟุตบอลโลก 2030 จะทำให้ โมร็อกโก ได้เป็นเจ้าภาพหนแรกหลังพบกับความล้มเหลวในการขอจัดเมื่อปี 1994, 1998, 2006, 2010 และ 2026 แถมยังเป็นชาติแรกในแอฟริกาเหนือที่ได้จัดบอลโลก
เดิมที โมร็อกโก ยื่นขอเป็นเจ้าภาพเดี่ยวๆ ก่อนจะได้ สเปน และ โปรตุเกส เข้ามาสมทบในเดือนมีนาคม
โปรตุเกส ก็จะเป็นเจ้าภาพหนแรกเช่นเดียวกันหลังเคยพยายามขอจัดในปี 2018 และ 2022 แต่ล้มเหลว ในขณะที่ สเปน เคยเป็นเจ้าภาพในปี 1982
สำหรับฟุตบอลโลกปี 2026 นั้นได้เจ้าภาพไปนานแล้วนั่นคือ แคนาดา, เม็กซิโก และ สหรัฐอเมริกา
แล้วจากที่เจ้าภาพฟุตบอลโลกกระจายไปทั่วทวีปอเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้และยุโรปตลอด 2 หนข้างหน้า จากนี้ไปฟีฟ่าจะเปิดกว้างต่อชาติเอเชียและโอเชียเนียสำหรับการจัดศึกบอลโลกปี 2034 เป็นไปตามนโยบายการหมุนเวียนเจ้าภาพของพวกเขา